วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Gundam ขนาดเท่าของจริง [อยากให้เห็นอ่าา]

ถ้าถามผมว่ามันเกี่ยวกับ blog ผมตรงไหนก็จะตอบว่า กันดัมก็เป็นอาวุธเน้อเพราะฉะนั้น Don 't mine







โครงการนี้ จัดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 30 ปี หุ่น Gundam โดยสร้างหุ่นจำลองของ Gundam รุ่นแรก คือ RX-78 ขนาดเท่าตัวจริง สูง 59 ฟุต หรือราว ๆ 18 เมตร ไว้ให้แฟน ๆ ได้ชมกัน

หุ่นจำลองตัวนี้ มีรายละเอียดเหมือนจริง แทบทุกประการ..
เพราะมันเดินหรือเคลื่อนที่ไม่ได้นั่นเองแต่มันสามารถขยับหัวได้ ปล่อยหมอกควันได้ และมีแสงที่ปล่อยออกมาจากไฟประดับถึง 50 จุด [ถ้าเดินได้ก็เตรียมตัวพบสงคราม Gundam กับ ญี่ปุ่นได้เลย]

หุ่น Gundam เป็นหนึ่งในการ์ตูนญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวด มันถือกำเนิดขึ้นโดยทีมงานของบริษัท Sunrise แห่งญี่ปุ่น ซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเครือบริษัทของเล่นและการ์ตูนยักษ์ใหญ่ Bandai Entertainment อันโด่งดังนั่นเอง

ผู้กำกับ Yoshiyuki Tomino เป็นคนสร้างภาพยนตร์การ์ตูนชุดทางโทรทัศน์เรื่องนี้ ส่วนทีมงานออกแบบใช้นามปากกาว่า Hajime Yatate ซึ่งประกอบด้วยบุคคลสำคัญ ได้แก่ Yoshikazu Yasuhiko ผู้ออกแบบ Character และ Kunio Okawara ผู้ออกแบบเทคนิค

การ์ตูนชุด Gundam ออกฉายทางโทรทัศน์ที่ญี่ปุ่นครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 1979 และฉายต่อเนื่องมา 43 ตอน ถึงเดือนมกราคม 1980

หลังจากนั้น ก็มีการสร้างภาคต่อเนื่อง ภาคเสริม ภาคพิสดาร หรือภาคอะไรต่อมิอะไรตามมา จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีสร้างออกฉายอยู่..!!

แถมมีหนังสือการ์ตูน เกม ของเล่น ของสะสม ฯลฯ ออกมาอีกนับไม่ถ้วน และที่สำคัญคือสามารถขายไปได้ทั่วโลก รวมถึงในสหรัฐ อเมริกา ทำรายได้ให้ Bandai ได้อย่างต่อเนื่อง

ข่าวว่าหุ่นจำลอง Gundam ในโครงการ Green Tokyo Gundam Project จะตั้งแสดงถึงเดือนมกราคมปีหน้า โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Green Tokyo ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรณรงค์ให้กรุงโตเกียว เป็นมหานครแห่งอนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

http://www.tcdcconnect.com/content/blog/?p=5778#more-5778 << ลิงค์เพิ่มเติม
http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=53&t=84027&start=0 << ลิงค์เพิ่มเติม



วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

You want to see this "NUCLEAR TEST"

Bunker Buster
ระเบิดทำลายบังเกอร์ใต้ดิน



Atomic Bomb
Atomic Cannon(ปืนใหญ่อะตอม)



Mike Bomb
ระเบิด ไฮโดรเจนลูกแรก


Bravo Bomb



Tzar Bomb (Soviet)
เป็นระเบิดนิวเคลียร์ที่รุนแรงที่สุดในตั้งแต่เคยมีการทดสอบมา



นี่เป็นภาพเปรียบเทียบความสูงและน้ำหนักระเบิดของระเบิดลูกต่างๆ

จัดอันดับ ปืนRifle ที่เยี่ยมที่สุด10อันดับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

Number -10-



Number -9-



Number -8-



Number -7-



Number -6-



Number -5-



Number -4-



Number -3-



Number -2-





ทายซิปืนรุ่นไหนจะได้ที่หนึ่ง
ไปดูกันเลยจ้า
Number -1-

วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

MP-44 อาวุธสมัยสงครามโลกครั้งที่2






ปืน MP44 ย่อมาจากคำเต็มในภาษาเยอรมันคือ Maschinenpistole 44 ผลิตโดยบริษัท Walther มีทั้งหมด 3 รุ่นคือ MP43 MP44 และ MP45 แต่รุ่นที่มีการผลิตออกมามากที่สุดก็คือรุ่น MP44 เนื่องจากเป็นรุ่นที่มีการนำปืน MP43 มาแก้ไขระบบกลไกให้ดีขึ้นและทำการชุบแข็งโลหะบางส่วนทำให้ปืนรุ่นนี้เป็นที่ไว้วางใจอย่างสูงของหน่วยทหารราบรวมไปถึงหน่วยรบพิเศษ Stormtrooper ของกองทัพนาซี ซึ่งปืนรุ่นนี้ได้สร้างชื่ออย่างมากในช่วงการทำสงครามที่เมืองสตาลินกราด ประเทศสหภาพโซเวียต

แม้ในภายหลังจะมีการนำปืน MP44 มาทำการปรับปรุงอีกครั้งจนเป็นปืน MP45 ออกมา แต่ก็มิได้มีการผลิตปืนรุ่นนี้ออกมามากนักในช่วงหลัง เนื่องจากโรงงานผลิตอาวุธของบริษัท Walther เองก็ถูกกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรโจมตีจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก อีกทั้งยังขาดวัสดุในการผลิตคือเหล็กและดินขับ ทำให้มีการผลิตปืนรุ่นนี้ออกมาน้อยมากในช่วงหลัง

ข้อมูลจำเพาะของปืน MP44 หรือ STG44
น้ำหนักปืน 5.22 kg.
ความยาวปืนทั้งกระบอก 940 mm.
ความยาวลำกล้อง 419 มม.
ระยะหวังผล 300 m.
ระบบปฏิบัตการปืน Gas-operated, tilting bolt
ขนาดลำกล้อง 8 mm. (0.31 in)
ขนาดกระสุน 7.92x33 mm. Kurz
อัตราการยิง 500/600 นัด/นาที
ความจุ 30/แมกกาซีน




Stg44 (Sturmgewehr 44)หรือในภาษาอังกิตก็ Assault Rifle 1944
ถูกพัฒนามาจากMP43(Machine Pistol 43) พัฒนาในปี1943(ตามเลขลงท้าย)


ประวัติความเป็นมา

ในช่วงแรก ฮิตเลอร์ต้องการอาวุธประจำกายทหารราบที่มีระยะยิงไกลกว่า 2,000 หลา(เหตุผลที่นิยมKar98) จึงไม่สนใจที่จะให้ผลิตปืนเอ็ม พี 43 ขึ้น แต่อัลเบิร์ต สเปียร์ รัฐมนตรีกระทรวงอาวุธของนาซีเยอรมันในขณะนั้น เห็นว่าเยอรมันมีความต้องการปืนรุ่นนี้เป็นอย่างมาก จึงทำการผลิตปืนรุ่นนี้ขึ้น โดยที่ฮิตเลอร์ไม่รู้ และส่งออกไปให้ทหารเยอรมันในแนวรบด้านรัสเซียได้ทดลองใช้ ปรากฏว่า ทหารราบเยอรมันต่างพอใจในสมรรถนะของปืนรุ่นนี้ ถึงขนาดที่ผู้บัณชาการกองพลของเยอรมันบางกองพล ได้พูดกับฮิตเลอร์ถึงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมของปืนกลมือ MP43 ความจริงเลยปรากฏต่อฮิตเลอร์ว่า ปืนรุ่นนี้ได้ถูกผลิตออกมาแล้ว(อะไรของเฮียแก อะไรไม่ถูกใจถึงดีไงก็ไม่เอาเลยหรอเนี่ยท่านผู้นำ - -)
อย่างไรก็ตาม ฮิตเลอร์ก็ได้รับการโน้มน้าวจากฝ่ายเสนาธิการของเขาว่า ปืนกล MP43 มีประสิทธิภาพมาก และเป็นที่ต้องการของทหารในแนวหน้า ทำให้ฮิตเลอร์ เปลี่ยนใจ และสั่งให้ผลิตปืนMP43 ออกมาใช้อย่างเต็มที่ โดยมอบหมายให้โรงงาน 3 โรงงานรับผิดชอบในการผลิต ตลอดจนมีการปรับเปลี่ยนภายในเล็กน้อย และเปลี่ยนชื่อเป็นปืน Stg44 (Sturmgewehr 44) สายการผลิตของปืนรุ่นนี้มีอยู่จนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองในปี 1945 ถือว่าอยุ่ได้ไม่นานถ้าเทียบกับMP40
แต่อย่างน้อย เมื่อจบสงคราม รัซเซียได้แบบของStg44ไป และนำไปพัฒนาไปเป็นของตัวเองแล้วใช้ชื่อAK47(ที่โด่งดังนั่นหละ) อย่างน้อยถึงจะใช้เป็นเวลาแค่ไม่นาน แต่Stg44ก็ยังมีลูกหลานให้เราเห็นกันอยู่อะนะ ^^
ซึ่งก่อนจะใช้ชื่อเป็นStg44 ก็ใช้ชื่อเป็นMP44มาก่อน
สังเกตจากการออกแบบที่อิงระบบปืนกลมือนั่นคือตัวเลือกระบบ แทนที่จะเป็น safe-semi-auto แบบปืนที่เราคุ้นๆกัน
แต่Stg44 จะเป็น safe-auto-semi ซึ้งการเลือกระบบแบบนี้ยังตกมาถึงลูกหลานอย่างAK47อีกด้วย

วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Machine Gun and other [ปืนกล กับ m79ก็มีนะ]

Machine Gun : ปืนกล
ประสงค์หลักของปืนกล คือทำออกมาเพื่อเป็นปืนยิงสนับสุนทหารราบโดยการตั้งยิงอยู่กับที่โดยโดยส่วน มากปืนกลจะมีขาทราบติดวาให้จากโรงงานอยู่แล้ว หรือจะใช้ขาหยัง3ขา หรือติดตั้งบนหลังคารถไม่ก็บนกำแพงเป็นปืนประจำฐาน กระสุนที่ใช้จะเป็นกระสุนไรเฟิล พิศัยการยิงอาจไกลได้ถึง1000เมตรแล้วขึ้นอยู่กับแรงลมและขนาดหัวกระสุนด้วย ครับ แต่ก็ไม่แม่นยำขนาดสไนเปอนะครับ แต่จะกระจายเป็นกลุ่มเพื่อหยุดยั้งเป้าหมายเป็นกลุ่มๆอย่างเช่นกองทหาร หรือเป้าหมายๆใหญ่ๆอย่างยานภาหนะ หรือแม้กระทั้ง ฮ.

ส่วนมากปืนกลจะ ใช้ระบบOpen Bolt หรือลูกเลื่อนเปิด การทำงานของระบบนี้จะอาศัยการกระแทกของลูกเลื่อนเพิ่อตีชนวน โดยในจังหวะมที่ยังไม่ยิงนั้น ลูกเลื่อนจะอยู่ในจังหวะถอยสุดและเมื่อเหนี่ยวไก ลูกเลื่อนจะวิ่งเข้าเพิ่อป้อนกระสุนเข้ารังเพลิงและที่ท้ายลูกเลื่อนจะมีตู้ สำหรับใช้แทงชนวนในจังหวะที่ลูกเลื่อนกระแทกกับรังเพลิง เหตุที่มีระบบนี้เพราะว่า ปืนกลนั้นต้องยิงต่อเนื่องหลาย100หบาย1000นัด บางครั้งยิงจนลำกล้องร้อนแดง ทำให้รังเพลิงร้อนมาก อาจจะทำให้ปืนลั่นเองกก็เป้นได้ แต่ระบบOpenBolt นี้ทายห่วงเรื่องนั้นแต่ข้อเสียของมันก็คือ ในการเหนี่ยวไกจะต้องรอให้ลูกเลื่อนดีดกลับและเข้ากระแทกรังเพลิงทำให้ความ แม่นยำในนัดแรกหายไป แต่จะไปสนใจทำไมปืนกลไม่ใช่ปืนยิงเอาแม่นอยู่แล้ว และส่วนมากปืนกลจะใช้กระสุนส่องวิถีเพื่อความง่ายต่อการยิงกราด เหมือนกับที่เคยเห็นกันในหนัง ที่เห็นเป้นสีแดงๆวิ้งนั้นหละครับ เค้าเรียกกระสุนส่องวิถี อณุภาพอาจจะไม่รุนแรงเท่ากระสุนปกติ แต่ว่าช่วยให้พลปืนกลยิงได้ง่ายขึ้น โดยส่วนมากจะใส่ไว้ 1นัด กระสุนธรรมดา 5นัด สลับไปแบบนี้เรื่อยๆครับ
แบ่งเป็นหลักๆได้3ประเภท
1.ปืนกล ขนาดเบา ปืนกลประเภทนี้มักจะใช้ระบบเดียวกับปืนไรเฟิลจู่โจมหรือดัดแปลงจากไรเฟิลจู่ โจมมาเลยโดยใช้แม็กกาซีนบรรจุกระสุน จึงทำให้ง่ายต่อการเคลื่อนที่และประทับยิง แต่ข้อจำกัดคือยิงกระสุนได้ไม่มากก็จะเกิดความร้อนทีสูงในรังเพลิงอาจจะทำ ให้ปืนลั่นเองก็เป้นได้
2.ปืนกลขนาดกลาง ปืนกลประเภทนี้จะใช้ระบบOpenBolt บรรจุกระสุนผ่านทางสายกระสุนหรืออาจจะมีบางรุ่นที่ใช้แม็กกาซีนได้ด้วย ปืนกลขนาดนี้พลยิงสามารถพาเคลื่อนย้านตำแหน่งได้โดยตัวคนเดียวโดยสามารถยิง ประทับบ่าได้ สามารถติดตั้งกับที่เป็นปืนกลประจำฐานด้วยขาหยั่ง3ขา หรือบนยานพาหนะ หรืออาคารได้จึงทำให้ปืนกลขนาดนี้เป้นที่นิยมกันมากกว่าปืนกลขนาดเบา
ด้วยศักยภาพที่สูงกว่าแค่น้ำหนักมากกว่าเท่านั้นเอง
3. ปืนกลหนัก ปืนกลประเภทนี้ไม่สามารถประทับบ่ายิงได้ ไม่ใชเพราะว่าหนัดหรอกนะครับแต่ปืนกลประเภทนี้ถูกออกแบบมาให้ประจำอยู่กับ ที่ ดดยอาจจะตั้งบนขาหลัง3ขาหรือ บนยานพาหนะเท่านั้น


M60

http://upic.me/i/2n/m60_01.jpg

http://upic.me/i/3b/m60_02.jpg

http://upic.me/i/is/m60e3.jpghttp://upic.me/i/o4/m60e4.jpghttp://upic.me/i/oi/m60e3_seal.jpg

http://www.imfdb.org/images/7/76/M60d.jpg

ปืนกลขนาดกลางจากอเมริกาที่ทางกองทัพไว้วางใจมากว่า50ปีแล้วและยังประจำการ อยู่ในกองทัพของหลายประเทศทั่วโลก ด้วยความที่มันเป็นปืนกลที่ทนทาน ความแม่นยำน่าไว้วางใจ การดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก อณุภาพการทำลายสูงเนื่องจากกระสุนขนาด7.62 ของมัน M60สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองได้ในสงครามเวียดนาม เพียง1-2นัดเท่านั้นพวกเวียดกงก็ถึงแก่ความตายได้โดยง่าย
แต่ด้วยน้ำหนักกว่า10กิโลของมันทำให้ลำบากในการพาเข้าป่าอย่างในสมรภูมิที่เวียดนาม
ต่อ มาM60ได้พัฒนาต่อเรื่อยมา แก้ไขข้อด้อยหลายๆของของM60E1 ที่ผ่านสงคราวเวียดนามมา ให้มีน้ำหนักน้อยลงเปลี่ยนรูปลัก มีหลากหลายชื่อมาก ทั้ง M60E1 E2 E3 E4 M60C M60D หรือ Mk43 Mod.0 หรือMod.1 ซึ่งแต่กต่างกันออกแบ แต่แค่ไหนอย่างไรผมก็ไม่รู้ทั้งหมดหรอกครับ และได้มีการลดความยาวของลำกล้องลงเพื่อความยืดหยุ่นในการปัฏิบัติภาระกิจอีก ด้วย จนกลายเป็นAssult Machinggun ปืนกลสำหรับเข้าจู่โจมที่คล่องตัวขึ้น เหมาะกับการปัฏิบัติภาระกิจในเมือง อย่างM60E4 หรือ Mk.43Mod.0
M60เป็น ปืนกลระบบOpenBolt บรรจุกระสุนขนาด7.62ผ่านทางสายกระสุน ที่อาจจะใส่ใว้ในกล่องกระสุนที่แขวนไว้ข้างปืนหรือ ปล่อยสายไปเลยแบบแรมโบ้พอข้าศึกเข้ามาไกล้ก็เอาสายกระสุนฟาด lol
การ บรรจุกระสุนของM60ต้องเปิดฝาขึ้นมาแล้วเอาสายกระสุนวางเอาไว้แล้วปิดดันคัย รั้งถอยหลังทีนึงให้โบลท์ค้าง จากนั้นก็เหนี่ยวไกกราดกระสุนไปเลย อ้อM60ยิงเซมิไม่ได้นะครับมีแค่เซฟและฟูลออโต้ และเมื่อจบการยิงก็เหนี่ยวไก1ครั้งเพื่อปลดลูกเลื่อนใช้เข้าชิดรังเพลิงลด การล้าของสปริงrecoil(สปริงที่พาลูกเลื่อนดีดกลับนั้นหละ)

FN Minimi / M249

http://upic.me/i/vy/m249saw.jpg

http://upic.me/i/l6/fn_minimi_m249.jpg

http://upic.me/i/5p/fn_minimi_para.jpg

http://upic.me/i/d6/fn_minimi_spw.jpg

http://upic.me/i/dz/fn_minimi_mk46.jpg


http://upic.me/i/kp/m249saw.jpg

FN Minimi จากเบลเยี่ยม เป็นปืนกลขนาดกลางรุ่นเล็กซึ่งมีความคล่องตัวสูงมากเลยทีเดียว รายระเอียดจะว่ากันอีกที เริ่มต้นโครงการที่เบลเยี่ยมในราวๆต้นยุค70และออกมาเป็นรูปเป็นร่างหรือ ก็คือFN Minimi ในปี1982 และต่อมาได้เข้าประจำการในกองทับสหรัฐในชื่อ M249 SAW คำว่า SAW ย่อมาจาก Squad Automatic Weapon แปลไทยได้ว่า อาวุทอัตโนมัติประจำหมู่ (อย่างM60จะเป็นปืนกลประจำหมวด)

M249 ใช้ลูกกระสุนขนาด5.56x45Nato ป้อนกระสุนผ่านทางสายกระสุนหรือแม็กกาซีนแบบM16 ปืนทำงานในระบบOpen Bolt สามารถยิงได้แต่ออโต้เท่านั้น การบรรจุกระสุนผ่านทางสายกระสุนสปืนสามารถลั่นกระสุนได้750นัดต่อนาทีแต่หาก ใช้แม็กกาซีนm16จะสูงถึง1000นัดต่อนาทีเลยทีเดียวสามารถหวังผลได้ไกล400-600 เมตรแล้วแต่ความยาวลำกล้องและสภาพอากาศสามารถยิงต่อเนื่องได้หลาย1000นัด กว่าลำกล้องจะร้อนแดง และสามารถเปลี่ยนลำกล้องได้อย่างลวดเร็วอีกด้วยอย่างในภาพสุดท้ายจะมีการ เตรียมลำกล้องสำรองเอาไว้ด้วย

ภาพแรกM249รุ่นแรกอย่างที่บอกข้างต้น คือรุ่นMinimi ต่อมาเมื่ออเมริกาได้เข้าประจำการปืนกลรุ่นนี้ก็ได้มีการปรับปรุงรูปลักษณ์ ใหม่ในชื่อM249 SAW ภาพที่2(บางครั้งจะเรียกM249 Mk.II) มีการเปลี่ยนประกับห้า และระบบศูนย์เล็งใหม่พานท้ายใหม่ และอืนๆปลีกย่อยอีกนิดหน่อย และต่อมาได้มีการดัดแปลงให้สั้นกระทัดรัดขึ้นสำหรับเข้าประจำการในหน่อยทหาร พลร่ม ในรุ่นM249 para (ย่อมาจาก paratrooper นั้นเอง) ทำการตัดลำกล้องสั้นลง และเปลี่ยนพานท้ายใหม่ให้สามารถหดเข้าไปได้เพิ่มความสะดวกให้ทหารพลร่มนี่ เอง และต่อมา ได้ปรับปรุงใหม่อีกแล้วโดยต่อยอดจากรุ่นPara ตัดระบบการป้อนกระสุนทางแม็กกาซีนออก(ปกติกห็ไม่ค่อยจะใช้กันอยู่แล้ว) ให้ป้อนกระสุนผ่านทางสายกระสุนเท่านั้น และตัดขาทรายออก เพราะว่าจะไม่นอนยิงแล้วเน้นไปทางด้านจู่โจมเป็นหลักและเพิ่มรางติดตั้ง ศูนย์เล็กใว้บนฝาหลัง ใช้ชื่อว่าM249 SPW หรือSpecial Purpose Weapon หมายถึงอาวุทเพื่อจุดประสงค์พิเศษ(ไม่รู้แปลออกมาตรงๆ) SPWนี้ ค่อนข้างจะคล่องตัวและน้ำหนักเบากว่าเดิมราวๆ1.5กิโล คือจากเกือบๆ7กิโล มาเหลือแค่ 5.7กิโลเท่านั้นเอง ส่วนในรุ่น SAW หรือMinimi ราวๆ7กิโลกว่าๆครับ และรุ่นน้องสุดจากตระกูลM249คือรุ่น Mk 46 mod.0 โดยนำเอา SPW มาใส่พานท้ายแบบSAW และทำชุดหน้าใหม่ให้เป็นรางติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆได้และใส่ขาทราย เข้าไป เพื้อเข้าประจำการในหน่วย US SOCOM ซึ่งน้ำหนักก็ไม่ได้ต่างไปจากSPWมากนัก


Grenade Launcher : เครื่องยิงลูกระเบิด
ชื่อก็ บอกอยู่ครับว่าเครื่องยิงลูกระเบิดก็เอาไว้ยิงลูกระเบิดหนะสิ มันมีเอาไว้สำหรับทำลายเป้าหมายเป็นกลุ่ม ยานพาหนะ หรือฐานที่มั่นที่มีปืนไม่สามารถยิงทำลายได้ การแบ่งประเภทของลูกระบิดที่ว่านี่แบ่งได้หลากหลายประเภท แต่โดยรวมแล้วขอแบ่งตามนี้นะครับ
แบ่งตามความเร็วของลูก
1.ลูกกระสุน ความเร็วต่ำส่วนมากจะเป็นกระสุนวิถีโค้งใช้ดินขับใส่ในปลอกเหมือนกระสุนปืน ส่วนมากมีหน้าที่ทำลายเป้าหมายเป็นกลุ่มเป็นวงกว้าง หรือฐานที่มั่น
2. ลูกกระสุนความเร็วสูง มักจะเป็นจรวดยิงได้เป้นระนาบ ส่วนมากจะใช้ทำลายยานพาหนะ หรือฐานที่มั่น โดยส่วนมากจะเป็นการเจาะทำลายเกราะเป้องกันเพื้อเข้าไประเบิดภายใน แต่ก็มีแบบที่ใช้ดินขับเหมือนกระสุนปืนด้วยแต่จะลูกเล็กกว่ามีความเร็วที่ สูงกว่า และมีอำนาจเจาะเกราะ

ส่วนลูกระเบิดที่ว่านี่ก็มีด้วยกันมาก มายหลากหลายแบบครับ ไม่ใช่แค่หัวระเบิดอย่างเดียว ข้อมูลนี้ขอดึงมาจากเว็บบล็อคของท่านนึงนะครับเห็นว่าระเอียดดีผมเลยไม่ต้อง พิมพ์ tongue
GRENADE : เป็นกระสุนระเบิดธรรมดาซึ่งมีอานุภาพในการทำลายล้างสูงมาก มีรัศมีการทำลาย 5 เมตร
RIOT : เป็นกระสุนส่องเเสงบอกตำเเหน่งเป้าหมายเเละตัวของเรา เหมือนเป็นพลุส่งสัญญาณยังใงยังงั้น เเต่ถ้าเป้าหมายโดนกระสุนชนิดนี้ยิง จะเกิดอาการตาพล่าชั่วคราว คล้ายๆระบิดเเสงนี้เอง
NAPALM : อาวุธเคมีที่มีอำนาจทำลายรุนแรงที่สุด คือ ระเบิดนาปาล์ม เป็นระเบิดเพลิง มีรัศมีการเผาผลาญ 5 เมตร เป็นระเบิดความร้อน นำมาใช้รุนแรงในเวียตนาม เรียกว่าอยู่ในรูในเลี้ยวก็ไหม้หมด อุณหภูมิโดยรอบจะสูงมากถึง 1000 - 2000 องศาเซลเซียส ซึ่งมีอานุภาพในการเผาผลาญเเละลุกไหม้สูงมากๆ แผลไฟไหม้ที่ผิวหนังจะทำลายเนื้อเยื่อ จนถึงกระดูก จะแผ่ คาร์บอนมอน็อกไซด์ ออกไปโดยรอบ เป็นพิษไปถึงบรรยากาศชั้นบน ถ้าเทียบกับ ระเบิดอื่นที่มีผลทั้ง blast damage, fire damage, radiation damage และอื่น ๆ อย่างปรมาณู นาปาล์มจะมุ่งเรื่องไฟและความร้อน นาปาล์มเหมาะกับข้าศึกที่รวมอยู่กันเป็นกลุ่มก้อน ทั้งในที่โล่ง บังเกอร์ เปลวไฟที่เเตกกระจายออกไปมีสภาพเป็นวุ้นลูกไฟ มันจึงชอนไชเข้าไปได้ตามซอกหลืบต่างๆ ผลเสียหายที่ตามมา คือ เกิดการย่างสดต่อสิ่งมีชีวิตเเละรวมถึงอาวุธยุทธโธปกรณ์ทั้งหลาย นาปาล์มจึงเหมาะสำหรับหย่อนใส่ข้าศึกใน ซอกหลืบ บังเกอร์ บริเวณชง่อนเขา เป็นต้น
CHEMICAL : เป็นกระสุนเคมี พวกระเบิดเเก๊สหรือก๊าซ ระเบิดเชื้อโรค สารพิษ กัมมันตภาพรังสี เเต่กระสุนเคมีส่วนใหญ่จะนิยมใช้เป็นเเก๊สโดยส่วนใหญ่น่ะ กระสุนเเก๊สพิษมีหลายชนิด
BUCKSHOT : เป็นกระสุนลูกปรายเหมือนกระสุนลูกซอง BUCKSHOT เเต่ความเเตกต่างของมันคือ มันจะบรรจุลูกปรายเหล็กหรือลูกปรายตะกั่วมากขึ้น 2 เท่า เนื่องจากใช้กระสุนขนาด ใหญ่ จึงบรรจุลูกปรายได้มากกว่า 12 MMของลูกซองมาตรฐาน พลังทำลายจึงเลยสูงมากขึ้น กว่าลูกซองเป็นเท่าตัว แต่ระยะหวังผลก็ไม่ได้ไกลกว่ากันเท่าไหร่
SMOKE : เป็นกระสุนควันรัศมีประมาณ 5 เมตรได้ ซึ่งจะมี 3 สีให้ใช้ คือ สีเขียว เเดง เหลือง ใช้สำหรับอำพลางหนี ป้องกันตัวจากการถูกข้าศึกโจมตีเป็นกลุ่ม เเล้วยังใช้บอกตำเเหน่งที่อยู่ของตัวเราได้ด้วยน่ะ
CLUSTER : เป็นกระสุนระเบิดดาวกระจายหรือกระสุนระเบิดลูกปราย เมื่อยิงลูกกระสุนพุ่งออกมา ซึ่งถูกยิงให้ควงสว่านเหมือนกระสุนปืน เมื่อได้ระดับที่พอเหมาะ เปลือกของระเบิดจะเเยกตัวออกมาประมาณ 5 -6 ลูกได้ ลูกปรายจากลูกภายในจะถูกเหวี่ยงออกมาด้วยเเรงหนีศูนย์ สามารถทำลายเป้าหมายในวงกว้างได้
H.E : เป็นกระสุนระเบิดฮีเลี่ยม หรือระเบิดเเรงสูง HIGH EXPLOSIVE มีพลังทำลายล้างสูงมากถึง 6 เมตรได้ อำนาจในการทำลายล้างจะสูงกว่าระเบิด GRENADE อีกน่ะ

ข้อมูลจากบล็อคคุณ wetchaputi จากExteen ครับ


M79


http://upic.me/i/5c/4m791.jpg

http://upic.me/i/gs/vm793.jpg

http://upic.me/i/k9/default.jpeg

http://upic.me/i/mm/jgcawm79solg.jpg

M79 จาก Colt ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ผลิตออกมาเพื้อใช้ในสมรภูมิสงครามเวียดนามเพื้อใช้ยิงพวก

เวียดกงที่หลบ อยู่ในรู โดยมีการผลิตมากหลายแสนกระบอก(ถ้ารวมที่ผลิตในไทยเร็วๆด้วยไม่รู้อีกกี่ กระบอก tongue ) แต่ปัจจุบันนี้ไม่ใช้กันแล้วเพราะว่าพลยิงนั้นต้องถืออาวุธ2อย่างไม่ว่าจะ เป็นM79เองหรือปืนประจำกายแต่ในที่สุดได้มีการพัฒนาเครื่องยิงลูกระเบิด สำหรับติดกับปืนไรเฟิลจู่โจมได้แล้ว พลยิงM79จึงหายไป แต่ว่าM79ก็ยังเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
M79เป็นเครื่องยิงลูกระเบิด ความเร็วต่ำวิถีโค้งขนาด40mm ที่ใช้กระสุนได้หลากหลาย(ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นใช้ได้หมดขอให้ขนาด40mm) บรรจุกระสุนได้1นัด ใช้การหักลำกล้องลงเพื่อบรรจุกระสุน หลักการเหมือนปืนลูกวองนั้นแหละแต่ว่ามันใหญ่40มม.เท่านั้นเอง
การเล็งยิงนั้นไม่ยาก อาศัยการเล็งผ่านศูนย์หลังที่เรียกว่าศูนย์ใบพัดวิธีเล็งก็แบบนี้

http://upic.me/i/2p/m79_positions2.jpg


พิศัยการยิงของM79นั้นตั้งแต่ไม่กี่10เมตรจนถึง370เมตร ทั้งนี้อยู่ที่สภาพอากาศด้วยนะครับ
เนื่องจากเหตุผลเดียวกับปืนสไนเปอร์แบบBoltAction คือระบบมันเบสิกสุดๆ ไม่มีอะไรเลยเลยมีข้อมูลมาก tongue


Shotgun : ลูกซอง
ปืนสำหรับต่อสู้ระยะประชิดที่ถือ กำเนิดมาแล้วหลายร้อยปีในยุคคาวบอย โดยส่วนมากกระสุนจะเป็นม่านกระสุนกระจายเป็นกลุ่มที่เรียกว่าลูกปลายเพิ่อ ง่ายในการเข้าเป้า มีแรงปะทะที่สูงจึงทำให้ล้มได้เลยในนัดแรง หรือถ้าลูกกระสุนเกาะกลุ่มกันมากก็ทำให้เป็นรูใหญ่ได้เลย และไม่ได้มีแค่ลูกปลายเท่านั้นยังมีลูกโดด เป็นลูกใหญ่ลูกเดียว แต่การจะใช้ลูกโดดนี้น้องใช้กับปืนที่มีลำกล้องเกลียวด้วยถึงจะเกิดความแม่น ยำสูงสุด และยังเอาอะไรมาใส่ในปลอกได้อีกด้วยอย่างเช่นกระสุนยางนี่เอง โดยกระสุนของปืนลูกซองนี้จะบรรจุในปลิดที่เป็นพลาสติดหรือกระดาษที่ทนไฟฟได้ ดี
ลูกซองแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆได้4แบบคือ
1. ลูกซองหัก - เป็นปืนลูกซองเบสิกสุดที่ถือกำเนิดขึ้นมาก่อนเลยโดนบรรจุกระสุนได้1-2นัด โดยการหักลำกล้องหลังรังเพลิงเพิ่อบรรจุ
2. ลูกซองชัก - ฝรั่งจะเรียกลูกซองปั๊ม(pump)เป็นแบบที่เห็นกันมากสุดๆ มันก็คือลูกซองกำนันอะไรแบบนั้นหละครับ โดยการใส่กระสุนจะบรรจุเข้าทางใต้ปืนเข้าสูงหลอดกระสุนใต้ลำกล้องและการขึ้น ลำกระสุนก็ชัก1ครั่ง จะเป็นการคัดปลอกเก่าและปรรจุกระสุนใหม่ไปในตัว
3. ลูกซองSelf-Loading - ลูกซองประเภทนี้จะมีรูปลักษณ์เหมือนกับลูกซองชัก เพียงแต่ว่าไม่มีมือจับสำหรับชัก การบรรจุกระสุนเหมือนกับลูกซองชักคือบรรจุใต้ตัวปืนขึ้นลำโดยการดึงลูก เลื่อนถอยเหมือนปืนออโต้ทั่วๆไป การทำงานของปืนจะมี2โหมดคือ เซฟ และเซมิออโต้เท่านั้น เพราะส่วนมากเป็นปืนพลเรือนแต่หน่วยงานต่างๆก็นำมาใช้เหมือนกัน
4. ลูกซองFull-Autometic - รูปทรงของปืนแบบนี้จะต่างกับชาวบ้านโดยสิ้นเชิงคือ มันมีรูปทรงและระบบการทำงานเหมือนปืนไรเฟิลจู่โจม และยังบรรจุกระสุนในแม็กกาซีนอีกด้วย สามารถเลืกโหมดการยิงทั้งเซมิ และ ฟูลออโต้ได้ หนือจะเรียกลูกซองจู่โจมก็ได้นะ

Winchester M1887

http://upic.me/i/n3/iac87.jpg

http://upic.me/i/8x/m1887_lh.jpg

http://upic.me/i/tk/win87b.jpg

http://upic.me/i/f1/t2jdwin18877.jpg
รูปใกล้ๆชัดๆครับ

http://www.antiquearmsinc.com/1887-winc … hotgun.htm

ปืน ลูกซองเก่าแก่ที่ผลิตโดยบ.Winchester ประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ยุคคาวบอยสสงครามกลางเมืองนู้นในปี1887ตามชื่อ (ปืนWinchesterยุคเก่าใช้ชื่อตามปีที่ผลิต) โดยผู้ออกแบบคือนาย John Brownning จ้าวประจำซึ่งสำหรับผมแล้วเค้าเป็นบิดาแห่งอาวุธปืนออโต้อย่างแท้จริง และ1887นี้ยังมีชื่อเล่นๆว่าGuardGunอีกด้วย

1887เป็นลูกซองรุ่น เดียวในโลกเลยกว่าว่าได้ที่ใช้ระบบLeaver Action หรือคานเหวี่ยงตามแบบปืนของWinchesterในสมัยนั้น ข้อดีของปืนแบบคานเหวี่ยงคือสามารถถือมือเดียวยิงได้โดยไม่ต้องใช้อีกมือ ช่วยในการเปลี่ยนกระสุนเอาใจคาวบอยที่ขี่ม้ายิงปืนกัน จะยิงแบบไหนนั้นติดตามได้ในคลิ๊บนี้ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=1BxbTSaxduA


* คลิ๊บนี้เป็นปืนBBGun กระบอกนี้ผมก็มีนะครับ ไม่ค่อยกล้าทำแบบนี้เพราะว่ากลัวปืนหล่น แต่สำหรับ1887ด้ามยาวจะใช้การเหวี่ยงแบบที่1นะครับเพราะลำกล้องยาวจะฟาดหน้า เอาได้ถ้าควงแบบที่2-3 แต่ถ้าเรามือว่าง2มือ เหวี่ยงคานแบบปกติดีกว่าไม่อันตราย

ปืนบรรจุกระสุนได้5นัดใน หลอดกระสุนใต้ลำกล้อง และ1นัดในรังเพลิง โดยจะใช้ลูกกระสุนขนาด10-12เกจ แต่ว่าสมัยนั้นยังใช้กระสุนดินดำกันอยู่เลยครับ แรงระเบิดจึงไม่มาก ทำให้กระสุนกระจายเป็นวงกว้างมากเกินไป (ในเกมPBมันมั่วครับ)
บรรจุลูกผ่านทางช่องคัดปลอกลงไปสูงหลอดกระสุนด้านล่างครับ


วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

Sub-Machine Gun [ปืนกลมือ,ปืนกลรอง]

Sub-Machine Gun : ปืนกลมือ
ปืนประเภทนี้จะมีขนาดที่ เล็กสั้นและน้ำหนักเบาครับเหมาะสำหรับการต่อสู้ในที่แคบและระยะประชิด ลูกกระสุนที่ใช้ จะเป็นลูกกระสุนปืนสั้น หรือลูกกระสุนเฉพาะปืนนั้นๆซึ่งส่วนมากจะเป็นลูกที่ค่อนข้างสั้นเพราะไม่ ต้องการแรงปะทะที่สูงและระยะยิงที่ไกลเหมือนปืนไรเฟิลจู่โจม เพราะอาจจะทะลุผู้ร้ายไปโดนตัวประกันข้างหลังได้ จึงต้องใช้กระสุนที่ยิงแล้วหยุดยั้งเป้าหมายได้โดยไม่ทะลุเป้าหมาย โหมดการยิงเจะเหมือนไรเฟิลจู่โจม คือ เซฟ เซมิออโต้ ฟูลออโต้
-เนื้อหาเพิ่มเติม
Personal Defense Weapon : อาวุธป้องกันตัวส่วนบุคคล
เป็น ประเภทแยกย่อยมาจากSMGผมขอเรียกว่าPDWนะครับ ทุกอย่างเหมือนกับSMGครับ เพียงแต่ว่ากระสุนที่PDWใช้จะเป็นกระสุนความเร็วสูง และมีอำนาจเจาะเกราะ ถ้าจะให้พูดก็คือAssultRifleขนาดเล็กนี่เองครับ เพียงแต่ว่ามันมีระยะหวังผลเท่าเกียมกับSMGครับ แต่ว่าลูกกระสุนก็ยังคงไม่มีอานาจพอจะยิงทะลุตัวเป้าหมายได้อย่าง AssultRifleนะครับ แต่เหตุที่ได้ชื่อนี้มาผมก้ไม่ทราบเหมือนกัน (P90ก็เป็นPDWนะครับเพราะว่าP90ใช้กระสุนเข้าข่ายPDW)

FN P-90


http://upic.me/i/6b/fn_p90_1.jpg


http://upic.me/i/v5/fn_p90_2.jpg

http://upic.me/i/qh/fn_p90_4.jpg

http://upic.me/i/ch/fn_p90_3.jpg

http://upic.me/i/ch/fn_p90_3.jpghttp://upic.me/i/do/fn_ps90_1.jpg

SMG PDWวัสดุโพลิเมอร์รุ่นแรกๆของโลกเลยครับP90เป็นปืนสัญชาติเบลเยี่ยมจาก บ.ผลิตอาวุธเก่าแก่ของโลกอย่างFN หรือย่อมาจาก Fabrique Nationale ตอนที่P90ออกมาอวดโฉมให้โลกได้รับรู้พวกหัวโบราณยังคิดเลยว่าแบบนี้เรียกว่า ปืนด้วยหรอ รูปร่างของมัน แปลกพิศดารมาก แต่เห็นแบบนี้P90เป็นปืนSMGที่มีศักยภาพสูงมากกระบอกนึงของโลกเลยครับ ด้วยความที่เป็นโพลิเมอทำให้P90พร้อมลูกกระสุนหนักเพียง3กิโลเท่านั้นเอง และด้วนความเป็น Bullpup <หรือปืนที่มีรังเพลิงอยู่หลังไกปืนสังเกตุได้จากทางเข้าลูกกระสุนครับ >ทำให้ตัวปืนนั้นสั้นมากครับแต่ยังมีลำกล้องที่ยาวพอที่จะทำความแม่นยำ ได้ครับ

ลูกกระสุนขนนาด 5.7x28mm สร้างมาเฉพาะปืน2รุ่นคือFN P90 และ FN 5-7(ติดตามได้ในหมวดปืนสั้นครับ)
ที่ ออกแบบมาให้มีอำนาจทะลุทะลวงสูงมาก(ขนาดทะลุเกราะกันกระสุนแบบมาตฐานได้เลย) แต่จะฝังในเป้าหมายโดยไม่ทะลุออกไปด้านหลัง แรงระเบิดของดินขับค่อนข้าต่ำทำให้P90เป็นปืนที่Recoil(แรงถีบกลับ)น้อยมาก อีกกระบอกนึงทำให้ผู้ยิงสามารถยิงนัดต่อไปได้อย่างแม่นยำ และความเร็วในการลั่นกระสุนสูงถึง900นัดต่อนาทีอีกด้วย
แม็กกาซีนถูกออก แบบมาอย่างไม่เหมือนใครโดยให้ลูกกระสุนขวางตามความยาวของแม็กและมากลับหัว ที่ปากแม็กดังรูป ด้วยการเรียงขวางตามยาวจึงทำให้จุลูกกระสุนได้ถึง50นัดโดยไม่เกะกะแต่อย่าง ได
โดยจะเข้าสูงรังเพลิงทางด้านบนของตัวปืนและปลอกจะออกจากทางด้านล่าง ของตัวปืน และด้วยคันชักลูกเลื่อนที่ติดตั้งไว้ทั้ง2ด้านตัวปืนจึงมีความสมมารตรกัน ทั้งซ้าย-ขวา(Death The Kid คงชอบนะครับ tongue )ทำให้ผู้ยิงที่ถนัดซ้าย-ขวาใช้งานได้อย่างเท่าเทียมกันโดยคนยิงซ้ายไม่ต้อง กลัวว่าปลอกจะกระเด็นโดนหน้า ตัวปรับโหมดการยิงอยู่ใต้ไกทำให้เลือกปรับเซฟ เซมิ หรือออโต้ได้อย่างง่ายดายและว่องไง

ตัวปืนมีการติดตั้งศูนย์เล็ง แบบReddotมาให้จึงไม่จำเป็นต้องมานั่งจัดศูนย์นั่งแท่นให้เสียเวลาเพราะการ ต่อสู้ระยะใกล้ใครเล๊งและเหนี่ยวไกได้ก่อนก็จะได้เปรียบ และยังมีรุ่นที่เป็นรางทำให้ใส่ศูนย์เล็งแบบอื่นๆได้อีกด้วย

การจะพูด ว่าP90เป็นปืนSMGที่ดีที่สุดในโลกก็อาจจะไม่เกินเลยนัก เพราะว่าตัวปืนมีน้ำหนักเบาจนถือ2กระบอกยิง2มือได้ ความแม่นยำก็มากพอกับพื้นที่ปัฏบัติการ ลูกกระสุนจุได้มากโดยไม่เกะกะ คนที่ถนัดซ้าย-ขวาสามารถใช้ปืนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเท่ากัน รีถีบต่ำทำให้นัดต่อไปที่ยิงไม่คลาดจากนัดแรกมากนัก สามารถปรับการยิงได้อย่างว่องไว คุณสมบัติเท่านี้ก็เป็นปืนที่เรียกได้ว่าปืนในอุดมคติได้แล้ว แต่ด้วยราคาของทั้งตัวปืน กระสุนที่เป็นขนาดเฉพาะ และอะไหล่ที่ต้องสั่งจากเบลเยี่ยมเท่านั้น
จึงไม่แพร่หลายในโลกนัก จะมีก็แต่ทางยุโรปเท่านั้นเอง


HK-MP5


http://upic.me/i/ej/hk_mp5a2.jpghttp://upic.me/i/j6/hk_mp5a3.jpghttp://upic.me/i/6w/hk_mp5n.jpg


SMG ที่แพร่หลายมากที่สุดในโลกเลยหละมั้งครับตัวนี้ หน่วยจู้โจมพิเศษทั้งหลาย ไม่ว่าจะSWAT Seal หรืออะไรก็แล้วแต่

แม่แต่หน่วยอรินทราชของไทยก็ใช้ครับ

Hk MP5 ผลิตโดยHeckler & Koch ประเทศเยอรมัน ที่MP5ได้รับความไว้วางใจในหน่วยรบต่างๆเพราะว่ามันเป็นSMGที่ทนทานสุดๆเลย หละครับ ด้วยระบบของHk ที่ใช้ระบบลูกสูลขับดันลูกเลื่อนที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานไม่ขัดลำกล้อง วึงสามารถพาลงน้ำลงทะเลได้ โผล่ขึ้นมาก็สามารถยิงได้โดยไม่ติดขัด ด้วยน้ำหนักเพียง2.8กิโลจึงเป็นปืนที่เบาคล่องตัว อย่างมาก ความยาวรวมของปืนเพียงเกือบๆ70เซนทำให้สามารถพาเข้าที่แคบและใช้ปัฏิบัติงาน ในที่แคบได้ดี และยังมีรุ่นที่สามารถหดพานท้ายได้จนเหลือความยาวเพียงแค่เกือบๆ 50เซนเท่านั้นเอง

ลูกกระสุนขนาด9x19 mm Parabellum บรรจุอยู่ในแม็กกาซีน30นัด และยังมีบางรุ่นที่ใช้กระสุน40S&W และ10mm Auto
อีก ด้วย ลำกล้องยาว เกือบ9นิ้วสร้างความเร็วของลูกได้สูงทำให่มีอำนาจทะลุทะลวงที่ดี แต่จะไม่ทะลุเป้าหมายตามเป้าหมายในการออกแบบปืนประเภทนี้อยู่แล้ว

MP5นี้ถือว่าเป็นปืนที่ค่อนข้างเก่าครับต้นแบบของMP5 คือ MP54 นั้นผลิตในปี 1965 แหนะ แล้วได้มีการพัฒนาเรื่อยมา


มี ผลิตออกมามากมาย อย่าง A1 A2 A3 A4 จะแตกต่างกันที่เฟรมล่าง ที่ในยุคแรงเฟรมล่างจะแบ่งเป็น2ชิ้น โดยที่วัสดุเป็นโลหะและกลิ๊บจัวเป็นโพลิเมอร์ ต่อมาก็ได้เปลี่ยนเฟรมล่างทั้งเฟรมเป็นโพลิโมอร์ และเปลี่ยนเฟรมโพลิเมอร์แบบเก่าเป็นแบบใหม่
ดังรูปนี้ รูปที่3เป็นจะเห็นได้ว่าสามารถยิงแบบ3นัดได้ด้วยในรุ่นA4


http://upic.me/i/xp/hk_mp5tr_g.jpg


http://upic.me/i/5m/hk_mp5sd3.jpg



MP5 SD เป็นMP5ที่พัฒณาขึ้นมาเพราะว่า MP5ที่เอาไซเรนเซอร์มาติดนั้นเก็บเสียงได้ไม่หมดจึงเปลี่ยนทั้งชุดลำกล้อง เป็นกระบอกเก็บเสียงเพิ่อความเงียบอีกด้วยหละ

http://upic.me/i/fb/hk_mp5ka4.jpg

MP5K เป็นรุ่นที่ทำออกมาเพื่อใช้ถือมือเดียวยิงได้ หรือใช้เป็นอาวุธรองในกรณีอาวุธหลังกระสุนหมดแล้วก็ชักเจ้านี่ขึ้นมาใช้ต่อได้


HK

http://upic.me/i/fn/2210254725352.jpghttp://www.internationalpolicesupply.net/mp7a1.jpg

http://militaryvids.files.wordpress.com/2008/10/hk-mp7a1-submachine-gun.jpg


http://upic.me/i/jl/2210254725639.jpg


http://img.redwolfairsoft.com/upload/pr … P7A1-L.jpg
อันนี้รูปใหญ่มากและเป็นปืนBBGunครับ แต่รูปมันครบถ้วนทุกรายระเอียดดีครับเลยเอามาให้ชม

MP7A1 ปืน SMG PDW รุ่นใหม่ล่าสุดจากHkเยอร์มัน เป็นปืนที่ถึอได้ว่าเป็นสุดยอดของปืนPDWอีกกระบอกเลยก็ว่าได้ ด้วยแนวคิดที่ว่าเป็นปืนสั้นก็ได้ เป็นปืนยาวประทับบ่าก็ได้ น้ำหนักเบาและทนทาน จึงได้ถือกำเนิดMP7ขึ้นมาในปี2000 และพัฒนาเป็นMP7A1ในปี2007โดยที่มันแตกต่างกันอย่างไรดูในย่อหน้าต่อๆไปนะ ครับ

MP7A1 มีระบบบริหารกลไกเช่นเดียวกับG36หรือพูดง่ายๆเลยคือG36ขนาดเล็กๆนั่นเอง ด้วยระบบGas piston ที่ย่อขนาดมาจากG36 ทำให้MP7ไม่กลัวสภาพอากาสและสิ่งสกปรกทั้งหลาย รวมถึงระบบลูกเลื่อนที่ยาขนาดกันมาทำให้MP7ไม่มีปัญหาในการขัดลำกล้อง

มา พูดถึงรูปลักษณ์ของMP7A1กันบ้างลูก ด้วยความที่ใส่แม็กกาซีนที่กลิ๊บจับทำให้ลดขนาดของปืนลงไปได้เยอะทีเดียว มันสามารถจับยิงแบบปืนสั้นได้ด้วยมือเดียวหรืออีกมือช่วยประคอง และสามารถชักพานท้ายและพับกลิ๊บมือที่อยู่ด้านหน้าโกร่งไกลงมาเพื่อประทับ บ่ายิงเพิ่มความแม่นยำได้อีกด้วยโดยที่MP7A1มีศูนย์2ระบบในอันเดียวกัน คือศูนย์เล็งแบบปืนสั้นที่แต้มจุดขาวไว้ที่ศูนย์เพื่อความเร็วในการจับเป้า แบบปืนสั้น และศูนย์เล็งแบบศูนย์หลังเป็นรูกลมเล็งเป้สหมายได้ง่ายและแม่นยำแบบปืนยาว
และด้วยน้ำหรักเพียง1.5กิโลกรัม(ไม่บรรจุ

พียง1.5กิโลกรัม(ไม่บรรจุกระสุน)ทำให้MP7เป็นปืนที่คล่องตัวอย่างมาก

MP7A1ใช้ลูกกระสุนขนาด 4.7x30mm บรรจุกระสุนในแม็กกาซีนขนาด20นัด(แม็กสั้นพอดีกลิ๊บจับ)และ40นัด(แม็กยาว)
กระสุน มีอำนาจเจาะเกราะกันกระสุนได้เลยด้วยลูกกระสุนที่เล็กแหลมความเร็วสูงของมัน แต่พิศัยการยิงนั้นไม่เกิน250เมตร และหวังผลได้ไม่เกิน150เมตรครับ

สิ่ง ที่เพิ่มเข้ามาของMP7A1จากMP7 คือ ระบบศูนย์2ระบบในตัวเดียว รางติดตั้งศูนย์เล็งแบบอื่นๆ รางติดตั้งเลเซอร์หรือไฟฉายด้านข้างลำกล้อง กลิ๊บจับหน้าที่ติดตั้งตัวล็อกกันไม่ให้กลิ๊บจับกางออกมาเอง สวิตช์ปรับโหมดออกแบบใหม่ เพิ่มตัวแขวนลูกเลื่อนในจังหวัที่กระสุนหมดและคานกลดลูกเลื่อนที่มีมาทั้ง 2ฝั่งง่ายต่อการใช้งาน เพิ่มร่องกันลื่นที่กลิ๊บจับ และปาดเว้าเพื่มง่ายต่อการดึงแม็กขนาด20นัดออกมา เพิ่มปลอกลดแสงที่ปากลำกล้องอีกด้วย




Kriss Super V
http://upic.me/i/xj/kriss1.jpg

http://upic.me/i/7r/kriss4.jpg

http://upic.me/i/py/kriss2.jpg


ปืนSMG บอดี้โพลิเมอร์จาก TDI สหรัฐอเมริกาตัวนี้ตอนผมเห็นครั้งแรกใหม่ๆ เห้ยยังกะปืนยิงตะปู พอมาศึกษาระบบแล้ว โอ้วยัดม่า มันสุดยอด เดี๋ยวว่ากันอีกที แรกเริ่มTDIคิดค้นปืนระบบนี้ในชื่อ TDI Vactor (แล้วค่อยมาใช้ชื่อKrissทีหลัง) เริ่มต้นโครงการในปี2006 และสำเร็จผลิตขายออกมาในปี2009

มาว่าด้วยระบบของKrissล้วนๆก่อนเลย แล้วกัน Krissใช้ระบบลูกเลื่อนแปลกจากชาวบ้านเค้าคือแทนที่มันจะวิ่งถอยหลังเป็นเส้น ตรงอย่างชาวบ้านเค้าที่มีกันมานานหลายร้อยปีแล้วแต่Kriss ใช้ระบบวิ่งลง ทำให้แรงถอยของลูกเลื่อนวิ่งลงเป็นแนวเฉียง ทำให้หักล้างแรงระเบิดจากลูกปืนด้วย แรงสะบัดเลยแค่นิดเดียวเท่านั้นเองแทบจะไม่สะบัดเลยด้วยซ้ำ ประกอบกับจุดศูนย์รวมน้ำหนักของปืนอยู่ต่ำ ดูได้จากชุดลั่นไกที่อยู่จรงนั้น (ตรงไหนฟะ) ทำให้เวลายิงจะควบคุมปืนได้ดีมากๆเพราะว่าแทนที่ปากลำกล้องจะสะบัดแต่ส่วน ที่สะบัดคือตรงกลางตัวปืนแรงสะบัด ทำให้แรงสะบัดกระทำลงที่มือทั้ง1ข้างและถ่ายลงพานท้ายด้วย ทำให้เกิดการกระจายแรง

ลิงค์เพิ่มเติม

http://www.youtube.com/watch?v=7Ur4tWh5jrY


http://www.youtube.com/watch?v=pnKd6iXH … re=related


http://upic.me/i/vg/kriss3.jpg

รีคอยด์มันต่ำมากจนยิงด้วยมือเดียวได้เลย

http://upic.me/i/1o/1012guna500x325.jpg

Kriss ใช้ลูกกระสุนขนาด.45ACP หรือ.45Autoหรือ11มม. บรรจุในแม็กกาซีน13นัดของGlock21 หรือใช้แม็กกาซีน30นัดก็ได้ และยังมีรุ่นที่ใช้9mm และ .40S&W อีกด้วยนะครับ แรงรีคอยด์ของ.45ที่ยิงจากKrissต่ำกว่า.45ที่ยิงจากSMGอืนๆหลายขุมเลย และมีอัตรการลั่นกระสุนสูงถึงกว่า1000นัดต่อนาที (รุ่นต้นแบบสูงถึง1500เลยหละ)

ดูเอาว่ามันหมด30นัดเร็วแค่ไหน

http://www.youtube.com/watch?v=cqw2ENtN … re=related

โหม ตการยิงของKirssมีด้วยกัน3โหมด 1นัด 2นัด และฟูลออโต้ ทำไมไม่ทำให้ยิง3นัดฟะงง รุ่นสำหรับพลเรือนก็มีนะแต่ยิงได้แค่เซมิ1นัด และมีเซฟไกอยู่เหนือไกพอดีบริหารง่าย มีระบบแขวนลูกเลื่อนด้วยทำให้ง่ายต่อการรีโหลด มีทั้งรุ่นลำกล้องสั้น140mmและลำกล้องยาว406mm ยิงหวังผลได้ไกล50เมตรโดยประมาร และพิศัยไกลราวๆ100เมตร

http://upic.me/i/8s/glockk.gif