ปืน MP44 ย่อมาจากคำเต็มในภาษาเยอรมันคือ Maschinenpistole 44 ผลิตโดยบริษัท Walther มีทั้งหมด 3 รุ่นคือ MP43 MP44 และ MP45 แต่รุ่นที่มีการผลิตออกมามากที่สุดก็คือรุ่น MP44 เนื่องจากเป็นรุ่นที่มีการนำปืน MP43 มาแก้ไขระบบกลไกให้ดีขึ้นและทำการชุบแข็งโลหะบางส่วนทำให้ปืนรุ่นนี้เป็นที่ไว้วางใจอย่างสูงของหน่วยทหารราบรวมไปถึงหน่วยรบพิเศษ Stormtrooper ของกองทัพนาซี ซึ่งปืนรุ่นนี้ได้สร้างชื่ออย่างมากในช่วงการทำสงครามที่เมืองสตาลินกราด ประเทศสหภาพโซเวียต
แม้ในภายหลังจะมีการนำปืน MP44 มาทำการปรับปรุงอีกครั้งจนเป็นปืน MP45 ออกมา แต่ก็มิได้มีการผลิตปืนรุ่นนี้ออกมามากนักในช่วงหลัง เนื่องจากโรงงานผลิตอาวุธของบริษัท Walther เองก็ถูกกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรโจมตีจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก อีกทั้งยังขาดวัสดุในการผลิตคือเหล็กและดินขับ ทำให้มีการผลิตปืนรุ่นนี้ออกมาน้อยมากในช่วงหลัง
ข้อมูลจำเพาะของปืน MP44 หรือ STG44
น้ำหนักปืน 5.22 kg.
ความยาวปืนทั้งกระบอก 940 mm.
ความยาวลำกล้อง 419 มม.
ระยะหวังผล 300 m.
ระบบปฏิบัตการปืน Gas-operated, tilting bolt
ขนาดลำกล้อง 8 mm. (0.31 in)
ขนาดกระสุน 7.92x33 mm. Kurz
อัตราการยิง 500/600 นัด/นาที
ความจุ 30/แมกกาซีน
Stg44 (Sturmgewehr 44)หรือในภาษาอังกิตก็ Assault Rifle 1944
ถูกพัฒนามาจากMP43(Machine Pistol 43) พัฒนาในปี1943(ตามเลขลงท้าย)
ประวัติความเป็นมา
ในช่วงแรก ฮิตเลอร์ต้องการอาวุธประจำกายทหารราบที่มีระยะยิงไกลกว่า 2,000 หลา(เหตุผลที่นิยมKar98) จึงไม่สนใจที่จะให้ผลิตปืนเอ็ม พี 43 ขึ้น แต่อัลเบิร์ต สเปียร์ รัฐมนตรีกระทรวงอาวุธของนาซีเยอรมันในขณะนั้น เห็นว่าเยอรมันมีความต้องการปืนรุ่นนี้เป็นอย่างมาก จึงทำการผลิตปืนรุ่นนี้ขึ้น โดยที่ฮิตเลอร์ไม่รู้ และส่งออกไปให้ทหารเยอรมันในแนวรบด้านรัสเซียได้ทดลองใช้ ปรากฏว่า ทหารราบเยอรมันต่างพอใจในสมรรถนะของปืนรุ่นนี้ ถึงขนาดที่ผู้บัณชาการกองพลของเยอรมันบางกองพล ได้พูดกับฮิตเลอร์ถึงประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมของปืนกลมือ MP43 ความจริงเลยปรากฏต่อฮิตเลอร์ว่า ปืนรุ่นนี้ได้ถูกผลิตออกมาแล้ว(อะไรของเฮียแก อะไรไม่ถูกใจถึงดีไงก็ไม่เอาเลยหรอเนี่ยท่านผู้นำ - -)
อย่างไรก็ตาม ฮิตเลอร์ก็ได้รับการโน้มน้าวจากฝ่ายเสนาธิการของเขาว่า ปืนกล MP43 มีประสิทธิภาพมาก และเป็นที่ต้องการของทหารในแนวหน้า ทำให้ฮิตเลอร์ เปลี่ยนใจ และสั่งให้ผลิตปืนMP43 ออกมาใช้อย่างเต็มที่ โดยมอบหมายให้โรงงาน 3 โรงงานรับผิดชอบในการผลิต ตลอดจนมีการปรับเปลี่ยนภายในเล็กน้อย และเปลี่ยนชื่อเป็นปืน Stg44 (Sturmgewehr 44) สายการผลิตของปืนรุ่นนี้มีอยู่จนสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองในปี 1945 ถือว่าอยุ่ได้ไม่นานถ้าเทียบกับMP40
แต่อย่างน้อย เมื่อจบสงคราม รัซเซียได้แบบของStg44ไป และนำไปพัฒนาไปเป็นของตัวเองแล้วใช้ชื่อAK47(ที่โด่งดังนั่นหละ) อย่างน้อยถึงจะใช้เป็นเวลาแค่ไม่นาน แต่Stg44ก็ยังมีลูกหลานให้เราเห็นกันอยู่อะนะ ^^
ซึ่งก่อนจะใช้ชื่อเป็นStg44 ก็ใช้ชื่อเป็นMP44มาก่อน
สังเกตจากการออกแบบที่อิงระบบปืนกลมือนั่นคือตัวเลือกระบบ แทนที่จะเป็น safe-semi-auto แบบปืนที่เราคุ้นๆกัน
แต่Stg44 จะเป็น safe-auto-semi ซึ้งการเลือกระบบแบบนี้ยังตกมาถึงลูกหลานอย่างAK47อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น